Header Ads

Screen-Shot-2561-02-24-at-11.53.29-PM.png
Breaking News
recent

07 มีนาคม 2559 สมุดหน้าเหลือง"โกดิจิทัล ดึงเอสเอ็มอีลุยอีคอมเมิร์ซ ได้ปรับรูปแบบเว็บไซต์ yellowpages.co.th ให้แสดงข้อมูลได้มากขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์แค็ตตาล็อกเข้าไปให้บริษัทที่ลงข้อมูลไว้ เพราะก่อนหน้านี้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับเว็บเพียง 2 นาทีหรือแค่หาเบอร์โทร.ที่ต้องการ

"ประเด็นหลัก



"ถ้าเราให้เซลส์ 100 คนวิ่งไปขายโฆษณาสมุดหน้าเหลืองในราคาที่แพงขึ้นตามต้นทุนก็คงขายไม่ได้ และถึงขายได้ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ก็อยู่ในช่วงขาลง ดังนั้นการย่ำอยู่กับที่ไม่ช่วยอะไร ผมจึงคิดว่าการนำสิ่งพิมพ์กระดาษกับดิจิทัลมาผสานรวมกันน่าจะช่วยให้บริษัทอยู่รอดได้ จึงเริ่มปรับเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทที่ลงโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองกับเรา มีหน้าร้านย่อย ๆ ผ่านแค็ตตาล็อกบนเว็บได้ แม้จะขึ้นราคาโฆษณา แต่ลูกค้ามองว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ตอบโจทย์การลงทุนในยุคเศรษฐกิจฝืด"

นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ www.xetasell.com และแอปพลิเคชั่นรวบรวมดีลจากบริษัทต่าง ๆ ที่ลงโฆษณากับสมุดหน้าเหลือง และสนใจทำประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บดีล รวมถึง www.hunsa.com เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ และ www.aroi.com เว็บไซต์รวบรวมร้านอาหาร ซึ่งพัฒนามาจากวารสารแจกฟรี "อร่อยดอทคอม"

นายชุติเดชกล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 504 ล้านบาท มาจากการขายโฆษณาในสมุดหน้าเหลือง และสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ราว 50% ถัดมาเป็นบริการคอลเซ็นเตอร์ ที่มีกว่า 500 คู่สาย รวมถึงการเปิดหมายเลข 1188 ช่วยค้นหาเรื่องต่าง ๆ คาดว่าจะสามารถกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วขาดทุน 7 แสนบาท เนื่องจากในช่วง 2 เดือนสุดท้ายไม่สามารถปิดยอดขายโฆษณาได้ตามเป้า






_________________________________





สมุดหน้าเหลือง"โกดิจิทัล ดึงเอสเอ็มอีลุยอีคอมเมิร์ซ



"เทเลอินโฟมีเดีย" เร่งเครื่องโกดิจิทัลสร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจ "สมุดหน้าเหลือง" ส่งโซลูชั่นไอทีเสริมทัพดึง "เอสเอ็มอี" ลุยอีคอมเมิร์ซ พร้อมอัพเกรดเว็บไซต์เป็น "แค็ตตาล็อกออนไลน์"

นายชุติเดช ปริญฐิติภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เทเลอินโฟมีเดีย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในปีนี้บริษัทจะนำบริการดิจิทัลรูปแบบต่าง ๆ เข้ามาผสานกับธุรกิจเดิมมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และสนับสนุนเอสเอ็มอีให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไอที โดยเปิดตัวระบบ EBMS (Enterprise Business Management Solutions) ที่เชื่อมต่อกับระบบบัญชีของแต่ละบริษัท ทำให้ขายสินค้าออนไลน์ง่ายขึ้น ตั้งแต่การบริหารจัดการลูกค้า, การทำเอกสารสั่งซื้อ, การทำแค็ตตาล็อกออนไลน์, การคำนวณรูปแบบขนส่ง, การออกแบบวิธีชำระเงิน และการรายงานวิเคราะห์ยอดขาย รวมทั้งโซลูชั่น Verk แอปพลิเคชั่น โซเชียลเน็ตเวิร์กสำหรับองค์กร พร้อมไพรเวตคลาวด์ทำให้ข้อมูลไม่รั่วไหล

"องค์กรขนาดใหญ่มีการติดตั้งโซลูชั่นอีอาร์พี เช่น เอสเอพี หรือออราเคิล แต่ราคาค่อนข้างสูง ทำให้เอสเอ็มอีไม่สามารถเข้าถึงได้ แม้อยากจะนำโซลูชั่นนี้มาช่วยเพิ่มยอดขาย เราจึงเริ่มพัฒนาโซลูชั่นออกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และต้นปีนี้พร้อมนำมาทำตลาดในเชิงพาณิชย์ โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่ลงโฆษณาสมุดหน้าเหลืองก่อน ตั้งเป้าไว้แค่ 10 รายก่อน เนื่องจากยังเป็นเรื่องใหม่"

ขณะเดียวกัน ได้ปรับรูปแบบเว็บไซต์ yellowpages.co.th ให้แสดงข้อมูลได้มากขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์แค็ตตาล็อกเข้าไปให้บริษัทที่ลงข้อมูลไว้ เพราะก่อนหน้านี้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับเว็บเพียง 2 นาทีหรือแค่หาเบอร์โทร.ที่ต้องการ จากนั้นก็ปิดหน้าเว็บ แต่เมื่อเพิ่มฟีเจอร์นี้จะอยู่กับเว็บนานขึ้น ทำให้การลงโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัท เนื่องจากการขึ้นค่าโฆษณาไม่ตอบโจทย์ในจังหวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว

"ถ้าเราให้เซลส์ 100 คนวิ่งไปขายโฆษณาสมุดหน้าเหลืองในราคาที่แพงขึ้นตามต้นทุนก็คงขายไม่ได้ และถึงขายได้ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ก็อยู่ในช่วงขาลง ดังนั้นการย่ำอยู่กับที่ไม่ช่วยอะไร ผมจึงคิดว่าการนำสิ่งพิมพ์กระดาษกับดิจิทัลมาผสานรวมกันน่าจะช่วยให้บริษัทอยู่รอดได้ จึงเริ่มปรับเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทที่ลงโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองกับเรา มีหน้าร้านย่อย ๆ ผ่านแค็ตตาล็อกบนเว็บได้ แม้จะขึ้นราคาโฆษณา แต่ลูกค้ามองว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ตอบโจทย์การลงทุนในยุคเศรษฐกิจฝืด"

นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ www.xetasell.com และแอปพลิเคชั่นรวบรวมดีลจากบริษัทต่าง ๆ ที่ลงโฆษณากับสมุดหน้าเหลือง และสนใจทำประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บดีล รวมถึง www.hunsa.com เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ และ www.aroi.com เว็บไซต์รวบรวมร้านอาหาร ซึ่งพัฒนามาจากวารสารแจกฟรี "อร่อยดอทคอม"

นายชุติเดชกล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 504 ล้านบาท มาจากการขายโฆษณาในสมุดหน้าเหลือง และสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ราว 50% ถัดมาเป็นบริการคอลเซ็นเตอร์ ที่มีกว่า 500 คู่สาย รวมถึงการเปิดหมายเลข 1188 ช่วยค้นหาเรื่องต่าง ๆ คาดว่าจะสามารถกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วขาดทุน 7 แสนบาท เนื่องจากในช่วง 2 เดือนสุดท้ายไม่สามารถปิดยอดขายโฆษณาได้ตามเป้า

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1459751915

ไม่มีความคิดเห็น:

So Magawn ( รวบรวบประวัติศาสตร์โทรคมนาคมและการสือสารไทย ). ขับเคลื่อนโดย Blogger.